วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

จุดชมวิว เขาหินเหล็กไฟ



          เป็นจุดชมวิว ตัวเมืองและอ่าวหัวหินที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่งซึ่งประกอบด้วยจุดชมวิวรวม 3 จุด และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เขาหินเหล็กไฟนี้ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหินไปทางทิศตะวันตกประมาณ 3 กิโลเมตรช่วงที่เหมาะในการชมวิวคือช่วงค่ำและเช้าตรู่
เขาหินเหล็กไฟนี้ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหินไปทางทิศตะวันตกประมาณ 3 กิโลเมตร จากถนนเลียบทางรถไฟมีทางข้ามรางรถไฟไปยังตีนเขาหินเหล็กไฟทางขึ้นอยู่ใกล้กับวัดสุขสำราญ สามารถขับรถยนต์ขึ้นไปบนเขาได้ (ถ้ามาจากถนนเพชรเกษมให้เลี้ยวเข้าหัวหินซอย 70 หรือ ถนนชมสินธุ์ แล้วขับตรงมาเรื่อย ๆ จนข้ามทางรถไฟ สังเกตเห็น"จี้อันตึ๊งซุปเปอร์มาร์เก็ต" อยู่ด้านซ้ายมือ ให้ขับตรงไปตลอด ระหว่างทางจะผ่านวัดสุขสำราญ วัดเขาต้นเกตุ เลยวัดไปเพียงนิดเดียวก็จะเห็นตีนเขา
          ชมวิวทิวทัศน์ในระดับสายตาอาจไม่เห็นความงดงามของความเป็นหัวหินได้กว้างไกลนัก ด้วยระดับความสูงประมาณ 162 เมตร จากระดับน้ำทะเล บนพื้นที่ 352 ไร่ ที่เป็นสวนสาธารณะบนยอดเขาของชาวหัวหินจึงเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นตัวเมืองหัวหินได้อย่างสวยงาม ในขณะที่ชาวหัวหินนิยมมาออกกำลังกายในช่วงเวลาเย็นบนยอดเขานี้ นักท่องเที่ยวเองก็นิยมมาชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขาแห่งนี้เช่นกัน

ขอบคุณรูปภาพ และข้อความดีๆ จาก http://www.ghousehuahin.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538638735&Ntype=3


เขาตะเกียบ


          เป็นเขาที่ยื่นออกไปในทะเลมีโขดหินสวยงาม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติขนาดใหญ่หันหน้าออกสู่ทะเลบนยอดเขามีทางเดินขึ้นไปสามารถชมทิวทัศน์ของท้องทะเล และตัวเมืองหัวหิน ได้อย่างชัดเจน ชายหาดเขาตะเกียบมีความยาวประมาร 1.5 กิโลเมตร มีความลาดชันน้อย ทรายขาวละเอียด บริเวณชายหาดมีร้านอาหาร ที่พักและร้านขายของที่ระลึกมากมายไว้บริการ



     อยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหินไปทางทิศใต้ประมาณ 5  กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายมือจากถนนเพชรเกษมที่กิโลเมตร 235 (สามแยกเขาตะเกียบ-ปราณบุรี) เข้าไปประมาณ 500 เมตร สามารถขับรถยนต์ขึ้นไปได้
     ในขณะที่เขาหินเหล็กไฟ จะตั้งอยู่ค่อนไปในตัวเมืองหัวหิน แต่สำหรับเขาตะเกียบตั้งอยู่ริมทะเล คั่นระหว่างหาดหัวหิน และหาดสวนสนประดิพัทธ์ วิวที่เห็นจึงแตกต่างกัน  บนเขาตะเกียบมีลักษณะเป็นแหลมยึ่นออกไปในทะเล เมื่อมองย้อนลงไปเบื้องล่างยังหาดหัวหิน จึงสามารถชมโค้งหาดหัวหินได้อย่างสวยงาม และยังมองเห็นเกาะสิงโต เกาะเล็ก ๆ ได้อีกด้วย จากยอดเขาตะเกียบยังมีทางเท้าลงไปยังชายหาดที่ขาวสะอาด บรรยากาศธรรมชาติคล้ายกับหาดหัวหิน ต่างกันที่สงบเงียบ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกน้อยกว่า



          บริเวณตีนเขาตะเกียบเป็นแหล่งขายอาหารทะเล ทั้งสดและแห้งให้บริการหลายร้าน ตรงข้ามกับเขาตะเกียบยังมีภูเขาย่อม ๆ อีกลูกหนึ่งชื่อเขาไกรลาส ข้างบนเป็นที่ตั้งของวัดเขาไกรลาส แม้ไม่มีทางรถยนต์ แต่ทางวัดได้ทำบันไดเดินขึ้นไปยังยอดเขาซึ่งนับว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองหัวหิน








ขอบคุณข้อความดีๆ จาก http://www.ghousehuahin.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538639022&Ntype=3
และรูปภาพจาก http://travel.upyim.com/tag/

ไร่องุ่น



          หากลืมตามาพบภาพบรรยากาศใน  “ไร่องุ่นหัวหินฮิลล์วินยาร์ด” ต้องไม่เชื่อแน่นอนว่านี่กำลังปักหมุดอยู่ที่เมืองชายทะเล “หัวหิน” เพราะมีภูเขาเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์รายรอบราวกับอยู่ภาคเหนือ สลับกับทิวไร่องุ่นที่เรียงรายเป็นแถวไกลสุดสายตา ผสานกับอากาศอันแสนสดชื่น และยิ่งมาช่วงแดดร่มลมตกยิ่งได้อารมณ์โรแมนติกแอนด์คลาสสิกสุดๆ





         
       ที่ “ไร่องุ่นหัวหินฮิลล์วินยาร์ด” มีพื้นที่กว้างขวางสะดวกสบาย ซึ่งทางไร่ก็มีเปิดให้เดินชมไร่องุ่น และหากมาในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต (ก.พ.-มี.ค.) ก็สามารถสอยองุ่นกลับไปทานที่บ้าน แถมยังมีต้นองุ่นขายให้เอากลับไปปลูกอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารเก๋ๆ ชื่อ “เดอะ ศาลา (The Sala) ไวน์บาร์ แอนด์ บิสโทร” บริการอาหารแนวยุโรปและเอเชีย พร้อมจำหน่ายไวน์-น้ำองุ่นรสเลิศ รวมถึงสินค้าที่ระลึกอื่นๆ




ขอบคุณรูปภาพ และข้อความดีๆ จาก http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/000163/lang/th/

วัดห้วยมงคล


          วัดห้วยมงคล เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เดิมใช้ชื่อว่า "วัดห้วยคต" ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านห้วยคต ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามใหม่จากห้วยคต เป็นห้วยมงคล ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นทั้งชื่อหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และโครงการต่างๆ อีกมากมาย


ขอบคุณข้อความ ดีๆ จาก http://www.edtguide.com/bigcampaign

เพลินวาน



          เพลินวาน หัวหิน  นอกจากที่หัวหินจะมีน้ำทะเลสวยๆ ชายหาด หาดทรายที่ทอดยาว ยังมีสถานที่ที่ซึ่งให้คุณหวนละรึกถึงความหลัง วันวาน อันแสนหวาน ความทรงจำที่คุณไม่ควรพลาด กับสถานที่ท่องเที่ยว เพลินวาน หัวหิน แม้จะเปิดมานานนแล้ว แต่...เอ! ไม่ใช่สิ! เปิดได้ซักระยะหนึ่ง แต่ด้วยชื่อที่ติดปาก ความประทับใจของผู้ที่เคยแวะเที่ยวที่เพลินวาน ต่างบอกกันปากต่อปากว่า เพลินวาน หัวหิน น่าเที่ยว และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณ..ไม่ควรพลาด!!
        


            เพลินวาน จะมีร้านเหล้าโบราณ ร้านขายขนมหวาน ร้านกาแฟ และมีกิจกรรมหลายๆอย่างที่ใครหลายคนต้องร้องอ๋อ พาให้หวนลำลึกถึงความหลังที่ยังเป็นเด็ก ในเพลินวานโดยเฉพาะวันสุดสัปดาห์จะมีการออกร้าน มีเครื่องเล่นงานวัดสมัยก่อน เช่นยิงปืนลมจุกก๊อก ดูแล้วอบอุ่น


ขอบคุณ ข้อความ ดีๆ จาก http://witternews.com/plearnwan-hua-hin-night-map/ , http://www.hua-hin.org/attractions/hua-hin_27.html
และรูปภาพ จาก http://witternews.com/plearnwan-hua-hin-night-map/

ตลาดฉัตรศิลา

          ตลาดแห่งใหม่ใจกลางเมืองหัวหิน ตกแต่งในสไตล์ย้อนยุคสุดคลาสสิก กิ๊บเก๋ด้วยการนำเอารถโบราณ ตู้ไปรษณีย์ทรงเท่ ๆ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์เก่า ๆ มาวางสอดแทรกกลมกลืนไปกับตลาดได้อย่างลงตัว






          แต่สิ่งที่ดูเหมือนเป็นไฮไลท์ คือ เรือนแถวไม้โบราณสีขาว ที่ตั้งตระหง่านสร้างกลิ่นอายในวันวานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังบริเวณชั้นสองของบ้าน ยังถูกดัดแปลงมาเป็นแกลเลอรี่แสดงภาพถ่ายหัวหินในยุคก่อนอีกด้วย แถมภายในตลาดฉัตรศิลายังมีร้านค้าให้เลือกช้อป เลือกชมมากมาย










ขอบคุณ รูปภาพ และข้อความดีๆ จาก http://travel.kapook.com/view673.html

ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม

          สถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ของหัวหิน เป็นตลาดน้ำในบรรยากาศรัตนโกสินทร์ย้อนยุค สมัยรัชกาลที่ 6 ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์หัวหิน ที่เน้นโทนสีขาวและแดง คล้าย ๆ สถานีรถไฟหัวหิน 




          ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ มีร้านค้าทั้งหมด 193 ร้าน และเรือขายสินค้า 40 ลำ อีกทั้งตลาดยังถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา และติดแหล่งน้ำธรรมชาติอย่าง "ลำห้วยสามพันนาม" จึงทำให้มีบรรยากาศเย็นสบาย ร่มรื่น เป็นธรรมชาติในแบบที่ไม่ต้องปรุงแต่งมากนัก แถมยังมีการแสดง โชว์แสง สี เสียง อันตระการตาให้ชมทุกวัน










ขอบคุณรูปภาพ และข้อความดีๆ จาก http://travel.kapook.com/view673.html

วังไกลกังวล


วังไกลกังวล เป็นวังส่วนพระองค์ที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2469 เพื่อพระราชทานแด่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี โดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จากพระคลังข้างที่ ตั้งอยู่ที่ชายทะเล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ห่างจากหาดหัวหินไปทางทิศเหนือประมาณ 3 กิโลเมตร โดยมีหม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์ กฤดากร เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ประกอบด้วย พระตำหนักเปี่ยมสุข ปลุกเกษม เอิบเปรม เอมปรีย์
ในรัชกาลที่ 7 ทรงออกพระนามเรียกวังแห่งนี้ว่า สวนไกลกังวล และในตราสัญลักษณ์ของวังเมื่อ พ.ศ. 2472 ได้ออกนามว่า พระราชวังไกลกังวลอย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีพระบรมราชโองการประกาศยกเป็นพระราชวัง ดังนั้น จึงยังคงเรียกว่า วังไกลกังวล
ปัจจุบันเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานฤดูร้อนของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงออกนามเรียกวังแห่งนี้ในพระราชนิพนธ์เรื่องทองแดง ว่า วังไกลกังวล

ขอบคุณ รูปภาพ และข้อความดีๆ จาก http://th.wikipedia.org/wiki/

The Cicada Market ตลาดปล่อยของสุดเก๋ 



          มา หัวหิน เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่จะเดินเล่นริมหาดทรายอย่างเดียว เพราะที่สวนศรีบริเวณเขาตะเกียบ มี The Cicada Market หรือ ตลาดจักจั่น แหล่งท่องเที่ยวสำหรับการพักผ่อนแห่งใหม่เกิดขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์


          ตลาดจักจั่น เป็นตลาดยามเย็น โดยปรับปรุงจากบ้านพักตากอากาศอายุเก่าแก่กว่า 60 ปี มาเป็นสวนยามเย็นที่เต็มไปด้วยแมกไม้เขียวขจี บนเนื้อที่ 10 ไร่




          ตลาดแห่งนี้เกิดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ "Open Mind & Open Mat : เปิดเสื่อ - เปิดใจ - เปิดไอเดีย" ดังนั้น ที่นี่จึงเป็นที่จำหน่ายงานศิลปะร่วมสมัยแขนงต่าง ๆ รวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์ งานทำด้วยมือ ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้มือสอง สินค้าที่มีสไตล์การออกแบบอย่างสร้างสรรค์ 


          


          ซึ่งการเดินทางมาเติมเต็มความสุข และบรรยากาศการท่องเที่ยวให้สมบูรณ์แบบที่ ตลาดจักจั่นจาก หัวหิน วิ่งตรงไปทางเขาตะเกียบ ผ่านชีวาศรม แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปทางที่มุ่งหน้าไปยังโรงแรมไฮแอท หัวหิน จะมองเห็นป้ายสวนศรีด้านขวามือ ตลาดยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย






ขอบคุณรูปภาพ และข้อความดีๆ จาก http://travel.kapook.com/view673.html



น้ำตกป่าละอู

          น้ำตกป่าละอู ตั้งอยู่ ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ในพื้นที่ป่าละอู มีพื้นที่ประมาณ 273,125 ไร่ อุดมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม และสัตว์ป่านานาชนิด ป่าละอูจัดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีหน่วยพิทักษ์อุทยานน้ำตกป่าละอูของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งอยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำก่อนถึงตัวน้ำตกประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นผู้ดูแลน้ำตกป่าละอู



         น้ำตกป่าละอประกอบด้วย น้ำตกละอูใหญ่ และน้ำตกละอูน้อย ซึ่งไหลลดหลั่นกันอย่างสวยงามถึง 11 ชั้น มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สามารถลงเล่นน้ำได้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผีเสื้อชุกชุม ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว อยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน 
         
          ในช่วงเช้าตรู่เนื่องจากอากาศเย็นสบาย และมีโอกาสพบเห็นสัตว์ป่ารวมทั้งนกหายากหลายชนิด 
นักท่องเที่ยวต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ชาวไทยผู้ใหญ่ คนละ 40 บาท เด็ก คนละ 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท ในกรณีที่ต้องการพักค้างแรม  ทางอุทยานฯ มีบริการบ้านพัก 8 หลังๆละ 800 บาท หรือ จะนำเต็นท์มาเองก็ได้ ราคา 30 บาท/คืน/คน ติดต่อขออนุญาตพักค้างแรมในเขตอุทยานฯ ได้ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานน้ำตกป่าละอู อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 77110


ขอบคุณรูปภาพและบทความดีๆ จาก http://huahin.sadoodta.com/travel/


ตลาดโต้รุ่งหัวหิน



          ตลาดโต้รุ่งหัวหินอยู่บริเวณถนนเดชานุชิต ตัดกับถนนเพชรเกษม หลายคนคงจะรู้จัก และคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าใครที่เคยมาหัวหิน ก็คงจะพลาดไม่ได้ที่จะต้องมาเดิน จับจ่ายซื้อของ หรือหาอาหารอร่อยๆ จากที่นี่รับประทานกัน 
          ที่นี่มีอาหารง่ายๆ อร่อยๆมากมายหลายเจ้า ให้เดินซื้อเลือกชิมกันเกือบตลอดทาง ไม่ว่าจะ เป็น ผัดไทย หอยทอด ข้าวขาหมู-มันไก่ กระเพราะปลา ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ดดยเฉพาะพวกอาหารซีฟู๊ด มีเปิดด้วยกันหลายร้าน มาทะเลทั้งที ก็ต้องอาหารทะเลซักหน่อย นี้อาจเป็นความต่างของโต้รุ่งหัวหิน กับตลาดโต้รุ่งแห่งอื่นๆ 
          ขนมหวาน ของทานเล่นก็มีมากมาย โรตี ปลาหมึกย่าง ลูกชิ้น หมูสะเต๊ะ และอีกสารพัดของหวาน เต้าทึง ไอศครีม ขนมแบบไทยๆ ผลไม้ สินค้าประเภทของที่ระลึก อย่างพวกเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เทป ซีดี หนังสือ ของฝากน่ารักๆ ให้ได้เลือกซื้อเลือกชมกันมากมายล้วนมีdesign น่ารักแข่งขันกันหลายร้าน ราคาก็ไม่แพงขึ้นอยู่กับคุณภาพด้วย การมาเดินดูของฝากที่นี่ก็ไม่เลว 
          ประมาณ 4 โมงเย็นของทุกวัน บรรดาแม่ค้าจะเริ่มทยอย ออกมาตั้งร้านรวงกันเป็นแถว ซึ่งกว่าจะครบทุกร้านก็ราว ๆ 5 โมงครึ่ง ก็จะเปิดขายเรื่อยไปจนตลาดวายประมาณ 5 ทุ่ม 
          นักท่องเที่ยวแทบทุกคนไม่ว่าชาวไทย หรือ ต่างชาติ ที่เดินทางมาเยือนหัวหิน ต้องมาทานอาหารเย็น ขนมหวาน และจับจ่ายซื้อของที่ระลึกมากมาย ที่มีให้เลือกทานนับไม่ถ้วน อาจกล่าวได้ว่ามาหัวหินแล้ว ต้องมาเดินที่ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ที่สำคัญ หหลายคนมักพูดว่า นอกจากมาเดินหาอะไรกินแล้ว ก็ชอบมาเดินเพราะสาวๆที่มาเดินโต้รุ่งหัวหินมักจะสวยๆกันทั้งนั้น ..แหม..ก็คงเพราะสาวๆเค้าชอบช๊อปปิ้งนี้นะ

ขอบคุณ รูปภาพ และข้อความดีๆ จาก http://huahin.sadoodta.com/travel

หาดหัวหิน




          ทางลงหาดมีสองจุด คือ ปลายถนนดำเนินเกษม บริเวณโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน ซึ่งเป็นจุดหลักที่มีนักท่องเที่ยวคึกคัก ส่วนอีกจุดคือบริเวณศาลเจ้าแม่ทับทิม-ศาลเจ้าพ่อสายน้ำเขียว ถนนนเรศดำริ ซึ่งตรงนั้นมีลานจอดรถเล็กๆ ตรงกับแหลมหิน ที่เป็นที่มาของชื่อหัวหินนั่นเอง  บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งบ้านจักรพงศ์ ของสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงศภูวนาถ (ปัจจุบันเป็นฮิลตัน หัวหิน รีสอร์ทฯ) นอกจากนี้ระหว่างทางไปเขาตะเกียบยังมีซอยสาธารณะลงชายหาดได้ เป็นซอยแคบๆ รถเข้าออกยาก เหมาระสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย 
          ตลอดแนวชายหาดหัวหินเป็นบ้านพักตากอากาศของบรรดาผู้มีชื่อเสียงระดับประเทศ สลับกับตึกคอนโดมิเนียมสูงและโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ด้วยเสน่ห์ของชายหาดหัวหินที่มีหาดทรายขาวสะอาดกว้างยาวสุดสายตา ไม่มีถนนเลียบชายหาดให้ยวดยานวิ่งพลุกพล่านอย่างหาดทั่วไป ไม่มีเจ๊ตสกี บานาน่าโบ๊ต สกูตเตอร์แล่นฉวัดเฉวียนรบกวนคนเล่นน้ำทะเล หาดหัวหินจึงสงบเงียบเหมาะแก่การพักผ่อนตากอากาศเป็นอย่างมาก

ขอบคุณข้อความดีๆ จาก http://www.thailands360.com
และรุปภาพจาก http://travel.kapook.com/view673.html

สถานีรถไฟหัวหิน (พลับพลาสถานีรถไฟ)



         

          สถานีรถไฟหัวหิน ตั้งอยู่ถนนพระปกเกล้า ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นสถานีรถไฟ ชั้น 2 ของทางรถไฟสายใต้ ทางด้านอาคารสถาปัตยกรรมได้รับยกย่องเป็นอาคารอนุรักษ์ อาคารสถานีรถไฟหัวหิน เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ อิทธิพลจากสถาปัตยกรรมวิคทอเรียเช่นเดียวกับโรงแรมรถไฟหัวหิน มีรายละเอียดสวยงาม ประดับเสา ค้ำยัน และอื่นๆ ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศไทยเป็นสถานีรถไฟเพียงแห่ง เดียวที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย และหากใครมาหัวหินก็ต้องมาถ่ายรูปคู่กับป้าย สถานีรถไฟนับว่าเป็นธรรมเนียมที่สืบต่อกันมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
           จุดเด่นของสถานีรถไฟหัวหินก็คือ ยังคงรูปแบบของสถานีแบบสมัยก่อนที่สร้างตัวอาคารด้วยไม้ ที่ทางเจ้าหน้าที่ของสถานีทำนุบำรุงดูแลรักษาอย่างดี ซึ่งหาดูได้ยากมากในสมัยปัจจุบันนี้ เพราะสถานีอื่นๆ ได้ทำการรื้อถอนและสร้างสถานีเป็นแบบสมัยใหม่เกือบหมดแล้ว
          อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศต่างพากันมาแวะเวียนเยี่ยมชมสถานีรถไฟแห่งนี้ก็คือ"พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ " เป็นพลับพลาจตุรมุขสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เดิมมีชื่อว่า " พลับพลาสนามจันทร์ " ตั้งอยู่บริเวณสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม พลับพลาแห่งนี้มีไว้ในการที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ เสด็จประทับทอดพระเนตรกองเสือป่า และลูกเสือทั่วประเทศทำการฝึกซ้อมยุทธวิธีเป็นประจำทุกปี หลังจากสิ้นรัชสมัยพระองค์ การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้ทำการรื้อถอนมาเก็บไว้เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
          ต่อมาในปี พ.ศ.2511 สมัยพันเอกแสง จุลจาริตต์ เป็นผู้ว่าการรถไฟฯ ได้พิจารณาเห็นว่า ควรนำเครื่องอุปกรณ์ก่อสร้างของพลับพลาสนามจันทร์ มาปลูกสร้างขึ้นใหม่ที่หัวหิน เพื่อเป็นที่ประทับขึ้นและลงรถไฟของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การดำเนินก่อสร้างนี้ใช้ช่างฝีมือคนไทย และได้มีการทำพิธีเปิดพลับพลา ซึ่งได้ตั้งชื่อใหม่ว่า " พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ " เมื่อวันที่ 6 เมษายน2517 ปัจจุบัน พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ และสถานีรถไฟหัวหินแห่งนี้จึงกลาย เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวอำเภอหัวหินเป็นอย่างมาก
          แม้วันเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่สำหรับสถานีรถไฟหัวหิน ยังคงได้รับการอนุรักษ์บรรยากาศด้วยการเก็บรักษาสิ่งก่อสร้างเดิมๆ ให้มีสภาพดีสวยงามอย่างเช่น พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ(ดังที่ได้กล่าวข้างต้น)  หัวรถจักรไอน้ำเก่าที่การรถไฟสั่งซื้อมาจากประเทศอังกฤษ หัวรถจักรนี้เคยวิ่งให้บริการในเส้นทางรถไฟไทยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง 

ขอบคุณ ข้อความดีๆ http://doohuahin.com/Railwaystationl.html
และรูปภาพ จาก http://travel.kapook.com/view673.html

ประวัติเมืองหัวหิน




          หัวหิน เป็นอำเภอที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดิมมีชื่อว่า "บ้านสมอเรียง" หรือ "บ้านแหลมหิน" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ได้ทรงสร้างวังไกลกังวลเพื่อประทับพักผ่อนในฤดูร้อน และปัจจุบันวังไกลกังวลนั้นเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน ทุกวันนี้หัวหินมีชื่อเสียงจากการเป็นสถานที่ตากอากาศที่สามารถเที่ยวได้ใน 1 วันและอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครเพียง 196 กิโลเมตร หากใช้เส้นทางถนนพระราม2 ใช้เวลาประมาณ 2.5-3 ชั่วโมงหากโดยสารทางรถ หรือ 45 นาทีหากเดินทางโดยเครื่องบิน อำเภอหัวหิน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับประกาศยกฐานะจากกิ่งอำเภอหัวหิน อำเภอปราณบุรี ตั่งแต่วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2492 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2492 ชุมชนหัวหินก่อตั้งขึ้นในราวปี พ.ศ. 2377 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เมื่อชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจากทางตอนเหนือละทิ้งถิ่นฐาน และเดินทางมาจนถึงพื้นที่ที่เป็นบริเวณใกล้กับเขาตะเกียบในปัจจุบัน แล้วได้ตั้งถิ่นฐานที่บริเวณนี้ เพราะเห็นว่าเป็นหาดทรายที่สวยงามและแปลกกว่าที่อื่น คือมีกลุ่ม หินกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป อีกทั้งที่ดินก็มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับทำการเกษตรและการประมง แล้วตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านสมอเรียง” ต่อมาพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนเรศวรฤทธิ์ (พระองค์เจ้าชายกฤษดาภินิหาร ต้นราชสกุลกฤดากร) ได้มาสร้างตำหนักหลังใหญ่ชื่อ “แสนสำราญสุขเวศน์” ที่ ด้านใต้ของหมู่หินริมทะเล (ปัจจุบันคือบริเวณที่อยู่ติดกับโรงแรมโซฟิเทลฯ) และทรงขนานนามหาดทรายบริเวณนี้เสียใหม่ว่า “หัวหิน” จนเมื่อเวลาล่วงไป ทั้งตำบล ในบริเวณนี้ก็ถูกเรียกในชื่อเดียวกันว่า “หัวหิน” และเจริญเติบโตขยายขึ้นเป็นอำเภอหัวหินจนถึงปัจจุบัน

ขอบคุณข้อความดีๆ จาก http://inkmsu.blogspot.com/2011/09/blog-post_4300.html
และรูปภาพ จาก http://hua-hin-inthailand.blogspot.com/2011/07/blog-post.html